วันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ส่องกล้องผ่าตัดพังผืดในผนังมดลูก


หลังจากที่คุณหมอแนะนำว่าให้ส่องกล้องผ่านช่องคลอดผ่าตัดพังผืดในผนังมดลูก   ก็ตกลงใจทำทันทีหลังจากอิดออดมานาน  เพราะว่าไม่มีแผล และดูไม่บาดเจ็บโหดร้าย  บางทีคนเราควรจะไปปรึกษาหมอหา second opinion, third opinion เพื่อหาวิธีรักษาที่นุ่มนวลที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด  (หมอคนแรกให้เราผ่าตัดทางหน้าท้อง  คนที่ 2 ให้เราส่องกล้องเจาะสะดือ)

ได้ยินหลายคนโดนตัดโน่นตัดนี่  ยังคิดในใจว่ายอมให้ตัดกันง่าย ๆ อย่างงั้นเลย?  ยิ่งเราตัดอวัยวะทิ้งเยอะ ๆ โอกาสมีลูกก็จะยิ่งต่ำเข้าไปใหญ่นะ

20/07/2017 - ไปหาหมอนัดวันส่องกล้อง
เวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะผ่าตัดพังผืดผนังมดลูกก็คือหลังจากมีประจำเดือนหมดเกลี้ยง และก่อนไข่ตก ประมาณ 7-10 วันหลังจากมีประจำเดือนวันแรก  แต่วันว่างของเราและคุณหมอก็ไม่ตรงกัน ทำให้รอบเดือนนี้ไม่สามารถผ่าตัดได้  เลยต้องนัดเป็นรอบเดือนหน้า

9/08/2017 - ส่องกล้องผ่านทางช่องคลอดเลาะพังผืดที่ผนังมดลูก
และแล้ววันขึ้นเขียงก็มาถึง  งดน้ำงดอาหารตั้งแต่หลังเที่ยงคืน, เหน็บยาให้ปากมดลูกเปิด, แล้วก็ฉีดยาสลบ  นี่ขนาดรู้สึกว่าผ่าตัดเล็กนะ  ตื่นมายังปวดท้องเลย  แต่หลังจากกินยาแก้ปวดแล้วทุกอย่างก็ชิล  มีเลือดออกนิดหน่อย  อารมณ์เหมือนตอนขูดมดลูกรอบแรก  รู้งี้ตอนขูดมดลูกรอบแรกขอส่องกล้องไปเลยดีกว่าจะได้หมด ๆ ไม่ต้องมาเจ็บตัว 2 รอบ  นอนค้างโรงพยาบาลไป 1 คืน

ตอนเช้าอีกวันหนึ่งคุณหมอเอาภาพมาให้ดู  แอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าพังผืดเราสวย (ลืมถ่ายรูปเก็บเอาไว้  ส่วนใน google ก็มีแต่ภาพน่ากลัว)  555 มันดูเป็นแค่เยื่อบาง ๆ เหมือนผ้าพลิ้ว 3 อันแค่นั้นเอง แต่เจ้านี่แหละท่าทางจะทำให้เด็กเกาะไม่ติด  ภาษาหมอเรียกสิ่งที่เราเป็นว่า Endometrial Polyps  เห็นหมอว่าคนเป็นเยอะมากนะ

จบการเคลียร์มดลูก  ประจำเดือนมาเมื่อไหร่เริ่ม ICSI รอบต่อไปได้ทันที  (จริง ๆ จะตั้งใจทำเองก็ได้นะ เห็นบางคนก็ติดเองซะงั้น เพราะปัญหาถูกขจัดไปแล้ว  แต่อยากรีบเลยจัดต่อไป)


วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

IVF / ICSI รอบที่ 2 : เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง


11/07/2017 - ปรึกษาหมอที่คลินิกใหม่ครั้งแรก
และแล้วเราก็ย้ายคลินิกเป็นรอบที่ 3  เนื่องจากเราต้องการประสบการณ์ที่หลากหลาย 555 ไม่ใช่ ! ตอนนี้เราเข้าสู่ภาวะ รักแท้แพ้ระยะทาง  คลินิกไหนจะดีหมอจะเก่ง ยังไงก็สู้คลินิกอยู่ซอยข้างบ้านไม่ได้  แต่คลินิกนี้ก็มีชื่อนะ  ไม่ใช่จิ๊บ ๆ มีชื่อว่าแพงอีกด้วย

ไปมาแล้วสนอง need ความสะดวกใกล้บ้านอย่างเป็นที่สุด  เพิ่งรู้ว่าการมาหาหมอทำ ICSI นี่มันง่ายเหมือนไปซื้อข้าวเหนียวมะม่วงหน้าปากซอยก็ตอนนี้  นัดหมอ 5 โมงเย็น ออกจากบ้าน 16:45  ไปถึงไม่ต้องรอคิว เพราะที่นี่นัดเป็นนัด  นัดเวลาไหนได้เวลานั้น  พบหมอเสร็จก็จบไปกินข้าวเย็นต่อได้  โอ้โห  ชีวิตมันดีแบบนี้นี่เอง

จากประสบการณ์ถ่อสังขารหาหมอเทพที่สุดปลายฟ้ามา 2 คลินิก ทำให้รู้ว่า  หาที่ใกล้ๆ เห้ออ  เพราะมันต้องไปหาหมอบ่อยมากกกกกกก ช่วงเริ่มกระตุ้นไข่นี่แทบจะทุกวัน  ก่อนหน้านี้นี่ชีวิตต้องเสียเวลาบนท้องถนนไป-กลับประมาณ 3 ชั่วโมง และการนั่งรอหมอใน/หน้า คลินิก อีกอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง - 2 ชั่วโมง  ไปหาคลินิกทีหมดเวลาไปครึ่งวัน - เต็มวันทุกที  แต่คลินิกที่ใกล้บ้านก็เป็นหนึ่งในคลินิกที่มีชื่อเหมือนกันนะ  เอาง่าย ๆ พวกคลินิก top list ทั้งหลาย อันไหนใกล้บ้านสุด จิ้มไปอันนั้น  เพราะคลินิกแรกที่ไปก็เพื่อนสำเร็จไปประมาณ 4 คน  คลินิกที่ 2 ที่ไปเพื่อนสำเร็จไปประมาณ 2-3 คน  เราก็ไม่เห็นสำเร็จกับเค้าเลย! มันวัดไม่ได้หรอกว่าถ้าเพื่อนสำเร็จแล้วเราจะสำเร็จด้วย  ถึงแม้ว่าเราควรจะอนุมานไว้แบบนั้นก็ตาม

มาพบคุณหมอครั้งแรก  ประทับใจความละเอียดในการอธิบายของหมอมาก  ไม่ใช่เจอหมอ 2 นาที 5 นาทีสั่นกระดิ่งหมดเวลา  ที่นี่หมอให้เวลา มีภาพประกอบการอธิบายให้เราเข้าใจ

Ultrasound แล้วหมอพบว่ามีขรุขระที่ผนังมดลูก แล้วหมอสันนิษฐานว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้รกเกาะได้ไม่ดี  ถึงได้แท้งไป 2 ครั้งที่ผ่านมา  คุณหมอเลยแนะนำส่องกล้องผ่านทางช่องคลอด (ไม่มีแผล!) เพื่อกำจัดเจ้าเนื้อเยื่อผังผืดขรุขระนี้ออกซะก่อน

แล้วก็จากประวัติรักษาของคลินิกเก่า คุณหมอที่นี่พบว่าเปอร์เซ็นต์ความสมบูรณ์ของสเปิร์ม = 0% ฟังแล้วช็อค  ทำไมคลินิกเก่าเค้าไม่บอกเรา  ทำไมเค้ายังเอาสเปิร์มที่ไม่สมบูรณ์ไปผสมกับไข่ของเรา  จนเราเสียไข่ไปหมด 21 ใบ !!  ถามหมอที่โน่นทีไรก็บอกว่าผู้ชายปกติ  คือสเปิร์มผู้ชายเยอะมาก 150 ล้านตัว  แต่คุณภาพสเปิร์มไม่ดีเลย  สเปิร์มที่สมบูรณ์มีแค่ 0-3% แค่นั้น  แล้วดันแจ็คพ็อตล็อตที่ทำ ICSI ดันเป็นล็อต 0%  อยากจะร้องไห้

รู้สึกดีเลยที่เปลี่ยนคลินิก  บางทีการที่หมอมีเวลาอ่านประวัติคนไข้ อาจจะได้รับการรักษาที่ถูกต้องกับเรามากกว่านะ

เริ่มต้นกับคลินิกใหม่ ก็ต้องเจาะเลือดใหม่ แล้วก็ตรวจสเปิร์มใหม่  ทีนี้หมอแนะนำให้ตรวจ antibody เพิ่มตัวนึง ลืมชื่ออะ ที่มันประมาณว่าร่างกายแม่จะต่อต้านตัวอ่อน หรือสเปิร์มหรือไงเนี่ย  คนที่แท้งบ่อยเค้าแนะนำให้ตรวจ

ผลเลือดรอประมาณ 1 อาทิตย์คลินิกก็โทรมาบอกว่าทุกอย่างปกติ  สเปิร์มผู้ชายวันนั้นก็ปกติด้วย !

เคสนี้แสดงให้เห็นว่าคุณผู้ชายก็เป็นตัวแปรสำคัญครึ่งหนึ่งในการทำลูกนะคะ  ต้องทำตัวให้ฟิตแข็งแรงตลอดเวลา  สเปิร์มแต่ละเดือนแข็งแรงไม่เท่ากัน  ถ้าไปแจ็คพ็อตไม่แข็งแรงวันผสมกับไข่นี่ก็เสียเงินฟรีน่าดู  อย่าผลักภาระหน้าที่ให้ผู้หญิงเตรียมตัวโด๊ปและเจ็บตัวคนเดียว  มันจะสำเร็จยากบอกเลย

UPDATE : ผลเลือดของผู้หญิงและผลสเปิร์มของผู้ชาย
เพิ่งจะได้ผลเลือดกับผลสเปิร์มมา ดูเผิน ๆ เหมือนจะปกติหมด แต่ถ้าดูลึก ๆ ก็ไม่ค่อยจะปกติเท่าไหร่เหมือนกันนะ

ผลสเปิร์ม : ปกติแค่ 5% แต่จำนวนมากมายมหาศาล (คาดว่าจากการโด๊ปวิตามิน) Total sample มี sperm = 1,350 ล้านตัว จาก Volume 2.3ml 😱

ผลเลือด เรา :
Prolactin = 25.1
TSH = 3.1
FT4 = 1.2
AMH = 4.18

จากประสบการณ์เดิม Prolactin ก็ยังสูงเหมือนเดิม  แต่หมอที่นี่บอกว่าทุกอย่างยังโอเคอยู่  ไม่ต้องกินยาลดเหมือน  2 คลินิกแรก

แล้วก็แนะนำสามีกินวิตามิน E Natural กับ Chelated Zinc เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ของสเปิร์ม


IVF / ICSI รอบที่ 6 : ใส่ตัวอ่อน + จบรอบไม่สำเร็จตามเคย

  24/03/2020 - ใส่ตัวอ่อน วันนี้ได้คิวใส่ตัวอ่อนรอบ 15:10 น. ให้มาถึงคลินิก 13:40 น. อาบน้ำ เรียบร้อยก่อนมาคลินิก งดทาแป้ง ทาครีม แต่งหน้า ท...