วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560

ลูกคนที่ 0.5


เนื่องจากเราแต่งงานช้า 35+ แล้วพอแต่งงานเสร็จก็ไม่ได้รีบเร่งที่จะมีลูกอะไรกัน  เพราะมีแต่คนพูดว่าแต่งงานแล้วอย่าเพิ่งมีลูกไม่งั้นจะเสียโอกาสทองในการสวีทสองคนในฐานะสามีภรรยา  ประกอบกับเห็นเพื่อน ๆ ที่มีลูกเล็ก ๆ แล้วก็มีขยาดบ้าง ที่แม่ ๆ ทั้งหลายจะต้องทนทุกข์กับการที่ลูกร้อง ไม่ได้นอน และให้นมทั้งวันทั้งคืน  เราก็เลยไม่เคยคุยกับสามีว่าจะมีลูกกันเมื่อไหร่ดี  ความรู้เรื่องไข่ตกหรือทำลูกเท่ากับศูนย์

พอแต่งไปแล้วน้องกับเพื่อนที่แต่งเดือนเดียวกัน เค้าแต่งเสร็จหลังจากนั้น 2 อาทิตย์ ท้องกันทั้งคู่  เราก็ผ่านมาเรื่อย ๆ ไม่ได้ซีเรียสอะไรจนเป็นเกือบปีแล้วก็ยังไม่ท้อง  ทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่ได้คุมกำเนิดอะไรเลยตั้งแต่แต่งงาน  จนคนเริ่มทักเมื่อไหร่จะมีลูก  ก็เริ่มนอยด์นิดนึงว่าเอ๊ะ ทำไมไม่มี  แต่ก็ยังไม่ได้ซีเรียสอะไร  เพราะว่าเอาจริง ๆ ในใจยังไม่พร้อมด้วย  ตอนนั้นทำบ้านใหม่อยู่แล้วบ้านยังไม่เสร็จ  เลยกะว่าถ้าบ้านเสร็จเมื่อไหร่ค่อยตั้งใจทำลูกกัน  ไม่ได้คิดว่าพวกเราจะมีลูกยากอะไรแบบนี้

แล้วอยู่ ๆ สามีก็มีอุบัติเหตุที่ทำให้ต้องเข้าโรงพยาบาลประมาณ 1 อาทิตย์  พอออกจากโรงพยาบาลเลยมีโอกาสพักต่ออยู่ด้วยกัน  ปกติเค้าเป็นคน workaholic ทำงานหนักมาก  แล้วเดินทางบ่อย  พอมีเวลาอยู่ด้วยกันก็ได้เรื่อง  เดือนถัดมาท้องจ้า (เพิ่งมารู้ทีหลังว่า He ชอบเดินทางวันเราไข่ตก 😓 )

โชคดีที่ตั้งแต่แต่งงาน  เพื่อนได้แนะนำว่าให้กินโฟลิคเตรียมไว้ก่อนเลย  ก็เลยกินโฟลิคทุกวัน  เพราะว่าโฟลิคควรกินล่วงหน้าก่อนท้อง 2-3 เดือน  เพื่อป้องกันความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กได้

29/03/2016 -  รู้ว่าท้องวันแรก
เราเป็นพวกไม่ค่อยสังเกตตัวเองเท่าไหร่  กว่าจะเอะใจว่าท้องก็ประจำเดือนไม่มา 1 อาทิตย์แล้ว (ประจำเดือนมาครั้งสุดท้าย 20/2/2016)  ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ ก็มีอาการก่อนหน้านี้ที่เหมือนจะเป็น clue แอบบอกอยู่เหมือนกัน คือ  อยู่ ๆ เราก็เป็นลมหน้ามืด แบบไปกองอยู่กับพื้นเลย ตอนไปตรวจบ้านใหม่  ทั้ง ๆ ที่เป็นคนที่เกิดมาเคยเป็นลมครั้งเดียวหลังจากถอนฟันคุดซี่ที่อยู่ลึก ๆ มาก ๆ แบบนอนติดกระดูกกราม เลยเสียเลือดเยอะ  หลังจากนั้นไม่เคยมีสถานการณ์ไหนที่ทำให้เป็นลม หรือหน้ามืดได้เลย  เคยดูละครไทยที่นางเอกท้องกับพระเอกแล้วเป็นลม  เรายังว่าละครไทยน้ำเน่า  แค่ท้องนางเอกก็ต้องเป็นลม  ตอนนี้รู้เองเลยจ้าว่าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ วันนั้นโชคดีคว้าราวบันไดไว้ทัน  เลยไม่ได้ร่วงกระแทกอะไร

แต่อยู่ ๆ พอท้องเองธรรมชาติแบบไม่ทันตั้งตัว  เราก็มีแพลนไปเที่ยวต่างประเทศมาก่อนหน้าที่จะรู้ว่าท้อง  ด้วยความงกเที่ยวและงกเงินที่จ่ายค่าโรงแรมไปหมดแล้ว  the show must go on  ตารางเที่ยวไม่มีการยกเลิกนะ  หลังจากตรวจปัสสาวะว่าท้อง วันที่ 29/03/2016  วันรุ่งขึ้นไปโรงพยาบาลไปขอใบรับรองแพทย์ว่าท้อง  เพราะเราไม่อยากเดินผ่านเครื่องสแกนรังสีที่สนามบิน  แล้วก็จองคิวคุณหมอเพื่อที่จะฝากครรภ์  คุณหมอก็คิวทองมาก  ได้คิววันที่ 20/04/2016 เลย  โชคดีมาก เป็นวันที่กลับจากเที่ยวพอดี

02/04/2016 - ไปเที่ยวแล้วจ้า
วันที่ 02/04/2016 เราก็บินไปเที่ยวเลย  ทริปนี้เป็นทริปที่โหดมาก ขึ้นเครื่องบิน ขึ้นรถ ลงเรือ ขึ้นรถไฟ ครบทุกอย่าง  แล้วหนาวมาก  เดินเยอะมาก บางวัน 4 กม.  ต่อเครื่องบินหลายต่อมากเพราะประเทศนี้ไม่มีสายการบินตรงจากกรุงเทพฯ  เดินทางทีเป็นวัน  กระเป๋าก็ใหญ่มาก  หนักมาก  เอาใบใหญ่สุดไปกันคนละใบ เพราะทริปนี้เดินทาง 19 วัน  สามีก็ช่วยได้ไม่มากเพราะเค้าต้องรับผิดชอบกระเป๋าเค้าเหมือนกัน  พอถึงโรงแรมวันแรก  ถึงเตียงนอนตอนสามทุ่ม  จำได้เลยว่า  มดลูกมันบีบมาก  บีบปิ๊บ ๆๆๆ ตลอดเวลา  แบบว่าลูกจะหลุดแล้ว  เราก็ใจไม่ดีเลย  หลับโดยไม่ต้องอาบน้ำเลยคืนนั้น

โชคดีที่ตื่นมาแล้วทุกอย่างดูปกติ  แต่ถนนหนทางประเทศนี้ก็มีเส้นทางที่เป็นหลุมเป็นบ่อเยอะมาก  เหมือนนั่งรถบนพื้นผิวโลกพระจันทร์ ตกหลุม กระแทก ๆ เป็นสิบ ๆ กิโล  การปวดท้องบีบ ๆ ก็มีเรื่อย ๆ แต่เราไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร  แต่โดยส่วนมากทุกอย่างดูปกติดี  อาการแพ้ท้องก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ จากปกติเป็นคนที่อาเจียนยากมาก  แบบว่าต่อให้เอามือล้วงคอก็ไม่ออก  กลายเป็นแค่แปรงฟันก็อาเจียนออกมาซะแล้ว  เหมือนลิ้นที่กั้นช่องหลอดอาหารมันพร้อมที่จะเปิดเทอาหารออกจากกระเพาะตลอดเวลา  แล้วก็เริ่มกินอะไรที่เลี่ยน ๆ ไม่ค่อยลง

20/04/2016 - กลับมาจากเที่ยว + ฝากครรภ์ครั้งแรก
พอวันที่  20/04/2016 กลับมาถึงประเทศไทยปุ๊บ  กลับบ้านอาบน้ำ  แล้วไปโรงพยาบาลกันเลยทันทีเพราะได้คิวเจอคุณหมอครั้งแรกพอดี  พอเจอคุณหมอแล้วอัลตร้าซาวด์  แล้วเจอภาพลูกพร้อมได้ยินหัวใจเต้นตึก ๆ รัว ๆ ครั้งแรกนี่มันปลื้มปริ่มน้ำตาจะไหลจริง ๆ ความรู้สึกของการเป็นแม่มันมาจริง ๆ เอาตอนนี้  หัวใจลูกเต้น 172bpm อายุครรภ์ 8 weeks 5 days ขนาด 2.04 cm




พอพบคุณหมอ ฝากครรภ์ครั้งที่ 1 เสร็จก็ทำตัวตามปกติเลย  เพราะคุณหมอบอกว่าการตั้งครรภ์ไม่ได้เป็นโรค กินโค้กได้ เต้นแอโรบิคได้  เราเลยทำตัวปกติมาก ๆ  ไปนวด, เดินงานแฟร์เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านใหม่  ไปชอปปิ้งหมดทุกที่  ขับรถเองด้วย  ซื้อของให้ลูกเตรียมไว้เรียบร้อย  เห่อมาก ๆ  ถึงแม้ว่าบางคนจะถือว่าเป็นลางไม่ดีเราก็ไม่ได้เชื่อ

21/05/2016 - ฝากครรภ์ครั้งที่  2
แล้วก็มาถึงวันครบรอบตรวจครรภ์ครั้งที่  2 อายุครรภ์ 13 weeks วันที่ 21/05/2016  วันนี้คุณหมอจะฟังเสียงหัวใจอย่างเดียวไม่อัลตร้าซาวด์  (คาดว่าช่วยคนไข้ประหยัดเงิน  แต่เราอยากอัลตร้าซาวด์มาก  ขอหมอแล้ว  หมอบอกไม่จำเป็น)   แล้วก็จะเจาะเลือดเช็คดาวน์ซินโดรมเพราะแม่อายุเกิน 35 (แม่แก่แล้ว 😩 )  ปรากฎว่าพอหมอเอาเครื่องมือที่เหมือนไมโครโฟนมาแปะตรงท้อง  แล้ว เงียบ....  หมอก็แปะสองสามที  แล้วหันมาบอกว่า  ไม่ดีล่ะนะ  เดี๋ยวลองไปอัลตร้าซาวด์ดู

วินาทีนั้น ตกใจมาก  ไม่คิดว่าจะมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับเรามาก่อน  พออัลตร้าซาวด์  หมอก็บอกว่าเสียใจด้วยนะ  เด็กหัวใจไม่เต้นแล้ว  ขนาดเล็กลงกว่าคราวที่แล้วด้วย  คาดว่าคงเสียไปตั้งนานแล้วเลยหด  ลูกเหลือขนาด 1.85cm เอง  แล้วหมอก็เดินออกจากห้องไป  ให้เราไปทำใจก่อน  แล้วรอคิวปรึกษาหมออีกที

น้ำตาซึมออกจากห้องอัลตร้าซาวด์เลย  สามีก็บอกว่าอย่าร้องเพราะคนเยอะมากหน้าห้อง การมาฝากท้องกับคุณหมอเทพ ๆ คิวทอง  คนไข้จะเยอะมาก  แล้วเค้าจะมีคิวเข้าห้องคุยปรึกษา  กับเข้าห้องอัลตร้าซาวด์  2 ห้อง

พอได้คิวเจอคุณหมออีกรอบ  หมอก็บอกว่าจะเอายังไงดี  มีทางเลือกคือ
1) รอให้เค้าหลุดเองตามธรรมชาติ  หรือ
2) ให้หมอดูดออก (ใช้คำให้ไม่น่ากลัวดี จริง ๆ ก็คือ ขูดมดลูกนั่นแหละ)

ซึ่งเราก็ตัดสินใจว่าให้หมอดูดออกเลย  เพราะว่าสังเกตจากขนาดลูกแล้ว  แสดงว่าเค้าน่าจะเสียได้เป็นเดือนแล้ว  แต่เราไม่รู้  แล้วก็ไม่มีอาการผิดปกติอะไรเลย  ไม่มีเลือดออก ยังแพ้ท้องปกติ  ที่มีมากขึ้นคือปวดหลัง  (เพิ่งมารู้ทีหลังเหมือนกันว่า  อาการปวดหลังเป็นการอาการหนึ่งของการแท้ง)  แล้วก็ถ้ารอธรรมชาติแล้วเค้าใช้เวลานานกว่าจะหลุดออกมาเอง  เราก็จะเสียเวลาในการทำลูกคนต่อไป  (ตอนนี้อยากมีลูกมาก ๆ แล้ว บิ้วกันมาขนาดนี้  ของก็ซื้อเตรียมไว้แล้ว)  แล้วหมอก็บอกว่าถ้าให้หลุดเองตามธรรมชาติ  แล้วเกิดเคสที่ว่าเค้าหลุดไม่หมด  เราก็ต้องมาให้หมอขูดมดลูกอีกรอบอยู่ดี  หมอก็เลยนัดขูดมดลูกวันที่ 23/05/2016 เลย  เร็วมาก ๆ มีเวลาทำใจ 2 วัน

22/05/2016 - ทำบุญ + ทำใจ
วันรุ่งขึ้นหลังจากได้รับฟังข่าวร้ายมา  เราก็ยัง งง ๆ เหมือนฝันอยู่  แต่ก็ต้องยอมรับความจริง  วันนี้เลยไปตระเวนทำบุญถวายสังฆทาน 3 วัดแถว ๆ บ้าน  เพราะพรุ่งนี้แล้วสินะ  หมอก็จะเอาลูกออกไปแล้ว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

IVF / ICSI รอบที่ 6 : ใส่ตัวอ่อน + จบรอบไม่สำเร็จตามเคย

  24/03/2020 - ใส่ตัวอ่อน วันนี้ได้คิวใส่ตัวอ่อนรอบ 15:10 น. ให้มาถึงคลินิก 13:40 น. อาบน้ำ เรียบร้อยก่อนมาคลินิก งดทาแป้ง ทาครีม แต่งหน้า ท...